วิตามินต้องกินเสริมไหม

วิตามินต้องกินเสริมไหม

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ใส่ใจสุขภาพ มองไปทางไหนก็เห็นวิตามินและอาหารเสริมวางขายกันมากมายหลากหลาย เลือกกันไม่ถูก มึนไปหมด ไม่รู้จะกินอะไรดี แต่… “ทุกคนจำเป็นต้องกินวิตามินเสริมหรือไม่?”

หากคนที่อายุยังน้อย การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมกับการกินผักผลไม้หลากสี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การกินวิตามินเสริมก็อาจไม่จำเป็น แต่ถ้าไม่ใช่ดังที่กล่าวมา โดยเฉพาะคนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือต้องอยู่ท่ามกลางสภาวะมลพิษ ร่างกายอ่อนแอง่าย การกินวิตามเสริมก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม หรือแม้แต่บางคนที่ว่าชอบกินผักผลไม้อยู่แล้วก็ตาม แต่บางครั้งวิตามินที่เข้าสู่ร่างกายอาจไม่เพียงพอ เพราะการล้างผักผลไม้หรือการปอกผลไม้ทิ้งไว้นานๆ ก็ทำให้วิตามินหายไปแล้วบางส่วน

วิตามินเพื่อสุขภาพ
  • วิตามิน A เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตา ผม และเล็บ
  • วิตามิน B1 บำรุงประสาท แก้เหน็บชา ช่วยเผาพลาญคาร์โบไฮเดรต ไปเป็นพลังงาน
  • วิตามิน B2 ช่วยเผาพลาญคาร์โบไฮเดรต ถ้าขาดจะเป็นแผลที่มุมปาก ผิวหยาบกระด้าง
  • วิตามิน B3 ช่วยบำรุงผิวหนังและระบบประสาท
  • วิตามิน B5 ลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด นอนไม่หลับ
  • วิตามิน B6 ช่วยบำรุงประสาท คลายเครียด
  • วิตามิน B7 ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของโปรตีนและไขมัน
  • วิตามิน B9 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง เสริมสร้างความจำ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
  • วิตามิน B12 ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือด บำรุงประสาท ป้องกันอาการอ่อนเพลียเนื่องจากโรคโลหิตจาง
  • วิตามิน C ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก สร้างคอลลาเจน เป็นสุดยอดของสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณลดอาการภูมิแพ้ ช่วยบรรเทาอาการหวัด
  • วิตามิน D ควบคุมการดูดซึมแคลเซียมบำรุงกระดูกและฟัน
  • วิตามิน E ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  • วิตามิน K ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
  • Q10 ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะลอความแก่
  • แคลเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน และความดันโลหิต
  • โอเมก้า 3 มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองและระบบประสาท ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่ากินเข้าไปเถอะ เยอะไว้ก่อนเป็นดี การกินวิตามินเยอะอาจไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นเรื่องเสียตังค์ไปโดยเปล่าประโยชน์มากกว่า ก่อนซื้อจึงควรคำนึงด้วยว่าเหมาะกับตัวเองหรือไม่ เพื่อการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่ใช่ว่ายิ่งมากยิ่งดีเพราะหากเกินปริมาณที่กำหนดไว้ก็อาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้เหมือนกัน

หากอยากกินวิตามินให้ได้ประโยชน์กับร่างกายจริงๆ คุณหมอแนะนำว่า ควรมาเจาะเลือดเพื่อตรวจดูว่าร่างกายขาดของคุณขาดวิตามินอะไร ควรเสริมตัวไหน หรือหากใครที่กินอยู่แล้ว ก็สามารถตรวจดูได้ว่าวิตามินที่กินอยู่นั้น ปริมาณพอเหมาะกับร่างกายหรือไม่ เกินความจำเป็นหรือเปล่า หรือควรปรับลดอะไรไหม

และเพื่อให้ร่างกายสามารถนำวิตามินไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิตามินบางตัว ต้องกินควบคู่กับอีกตัว เช่น วิตามิน D ต้องทานคู่กับวิตามิน K2 เพราะวิตามิน D ช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย เสริมสร้างกระดูกและฟัน ในขณะที่วิตามิน K2 ทำหน้าที่ในการเก็บแคลเซียมส่วนที่เกินออกจากร่างกาย หากทานแต่วิตามิน D อย่างเดียว ร่างกายก็อาจสะสมมากเกินไปได้

หรือบางคนที่กินแคลเซียม ก็ตั้งหน้าตั้งตากินแต่แคลเซียมโดยไม่รู้เลยว่าการกินแคลเซียมเปล่าๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะต้องใช้วิตามิน D เป็นตัวดึงแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย หากกินแคลเซียมก็ควรกินวิตามิน D ด้วย หรือหากซื้อแคลเซียมกินเองก็ต้องดูฉลากให้ดีๆ ว่าแคลเซียมนั้นมีวิตามิน D ผสมอยู่ด้วยหรือไม่

ตรวจก่อนกิน ดีอย่างไร

การซื้อวิตามินกินเอง ก็เหมือนการสุ่มเสี่ยง ไม่รู้ว่าร่างกายต้องการจริงๆ หรือไม่ แต่การมาตรวจเลือด เพื่อดูว่าร่างกายของคุณขาดวิตามินอะไร ขาดตัวไหนคุณหมอก็จะจัดให้เป็นรายบุคคลไป ต้องทานปริมาณเท่าไหร่ ทานมื้อไหน ทานอะไรคู่กับอะไร คุณหมอจะจัดเป็นเซ็ทไว้ให้ ทานง่าย ปลอดภัย ร่างกายได้ประโยชน์เต็มที่ ที่เราจะเลือกกันว่า วิตามินสูตรเฉพาะบุคคล (Customized Supplement)

วิตามินทุกตัว ไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน ก่อนตัดสินใจเลือกรับประทานตัวไหน ควรศึกษาให้ดีๆ กินวิตามินเสริมแล้วร่างกายต้องได้ประโยชน์ ไม่ใช่เป็นโทษเพราะเงินหมดไปกับการซื้อวิตามิน

Ref : samitivejhospitals

บทความทั้งหมด
Share